วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พระมหากษัตริย์ไทยคือพระมหาโพธิสัตว์


พระมหากษัตริย์ไทยคือพระมหาโพธิสัตว์ เราจะตอบแทนคุณของชาติและพ่อหลวงได้อย่างไรในเวลาวิกฤตินี้
สันติสุข-5: พุทธทำนาย ในเวลานี้ ประเทศไทยมีพระโพธิสัตว์ถึงสองพระองค์
พระมหากษัตริย์ไทย ร. 9 คือพระมหาโพธิสัตว์ และ ท่านจะสามารถช่วยชาติในเวลาวิกฤตินี้ได้

วัตถุประสงค์
ของ สันติสุข
ตอนที่ 1 ถึง 4 เรื่อง พระศรีอารย์ ก็เพื่อขอให้พวกเราทำความเข้าใจเรื่องราวในหนังสือเหล่านี้ เพื่อโอกาสการนำสันติสุขกลับมาสู่บ้านเมืองไทยโดยสันติวิธี

ขอให้คิดว่า ถึงแม้ท่านจะเป็นแขนงไผ่เพียงแขนงเดียว จะไปงัดท่อนซุงได้อย่างไรกัน แต่ถ้าเราทั้งหลายเอาแขนงไผ่มารวมมัดกันให้แน่น แล้วใช้ปัญญา อย่าว่าแต่งัดซุงเลย แม้จะพาพวกเราข้ามแม่น้ำก็ทำได้

เรื่องสันติสุข 1 ถึง 4 อยู่บนเวบต่างๆ เช่น พลังจิต และเวบ metteya.org (เวบ metteya.org เป็นภาษาไทยที่เป็นที่รู้จักระดับโลก ในเรื่อง พระศรีอารย์หรือ “metteya”) โดยขอสรุปเป็นหัวข้อดังนี้

สันติสุข-4: เป็นเรื่องของพระจักรพรรดิปิดศาสนาคริสต์ทำไม และทำอย่างไรที่เราคนไทยและพระจักรพรรดิจะช่วยประเทศขาติได้ โดยสันติวิธี

สันติสุข-3: เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าโคตม ตรัสอย่างไรเกี่ยวกับพระมหาเถระโพธิสัตว์ หรือ พระมหาโพธิสัตว์ (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร. 9) และ พระธรรมมิกราช (พระจักรพรรดิ) สำหรับพระจักรพรรดิที่จะปรากฏในเวลาปัจจุบันนี้ พระพุทธเจ้าโคตมทรงตรัสอย่างไร มีหลักฐานอะไรสนับสนุน

สันติสุข-2: เป็น เรื่องที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น มนุษย์ต่างดาวมีจริงนักวิทยาศาสตร์ยอมรับ และพระจักรพรรดิก็มีจริง มีหลักฐานมากมายสนับสนุน คำทำนายของนอสตราดามุส และคำถาม-ตอบ เรื่องพระจักรพรรดิ

สันติสุข-1: เป็นเรื่องเกี่ยวกับความจริงที่พระจักรพรรดิจะปรากฏในปัจจุบัน สำหรับที่พุทธศาสนิกชนส่วนมาก เชื่อกันว่าพระศรีอารย์ (พระจักรพรรดิ) จะมาปรากฏปี พ.ศ. 5000 หรือหมื่นปี เป็นเรื่องขาดหลักฐานและเหตุผลสนับสนุน

โปรดพิจารณาเรื่องเหล่านี้ด้วยความตั้งใจ อย่างน้อยก็เป็นการแสดงว่า เราตั้งใจที่จะตอบแทนคุณของชาติ และ พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ และบรรพบุรุษไทยที่ปกป้องชาติไว้ด้วยเลือดด้วยเนื้อ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบรมธรรมราชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช พระมหาโพธิสัตว์ (พระบรมโพธิสัตว์) ของโลก พ่อหลวงของเราทั้งหลาย ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องช่วยกันหาทางนำความสงบสุขกลับคืนมาสู่ประเทศของเรา

โปรดคิดว่า ในขณะนี้เรามีความทุกข์แค่ไหน ที่ประเทศชาติเกิดวิกฤติที่แก้ได้ยากเช่นนี้ แล้วพ่อหลวงของชาติไทยจะทุกข์มากกว่าเราเพียงใด

เห็นภาพข่าว ฝรั่งสาวอายุประมาณ 20 ปี ออกไปยืนกลางถนนถือภาพ พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (โปรดอย่าพึ่งโทษใคร ถ้ายังไม่รู้ข้อเท็จจริง ความสามัคคีเป็นไปได้แต่ต้องหาผู้เป็นกลางอย่างแท้จริง) เห็นแล้วสะท้อนใจมากจนน้ำตาไหล เขาเป็นฝรั่งแท้ๆ เขายังรักพ่อหลวงของชาวไทย ยิ่งกว่ากลัวอันตรายจะเกิดขึ้นกับตัวของเธอเอง

โปรดเข้าใจว่าเราไม่แยกคนไทยหรือชาวต่างชาติ เราเป็นมนุษยโลกเช่นเดียวกัน เป็นสัตว์โลกเหมือนกัน เรายังไม่ทราบว่าอะไรผิดอะไรถูก เรายังไม่ทราบข้อเท็จจริง พระพุทธเจ้าโคตมทรงตรัสไว้ว่า พระจักรพรรดิผู้เป็นกลางอย่างแท้จริงควรบอกเราได้ว่าอะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย และเราจะหลุดจากบ่วงแห่งความเป็นทุกข์ได้อย่างไร
------------------------------------------------------------------------------------------



สันติสุข-4: พระศรีอารย์ ทำไมปิดศาสนาคริสต์ ผู้มีบุญจะเห็นความจริง
หนทางที่จะนำประเทศชาติกลับมาเป็นผืนเดียวกัน และเพื่อความสันติสุขของประเทศไทย และมนุษยโลก มีโอกาสเป็นไปได้ด้วยสันติวิธี

ขอ เริ่มต้นโดยโปรดระลึกว่า ประเทศชาติให้อะไรกับท่าน และท่านสามารถช่วยประเทศชาติของท่านให้เกิดความสงบสุขได้ ด้วยวิธีที่ง่ายๆคือ ช่วยกันบอกเล่าเรื่องพระจักรพรรดินี้ไปยังผู้อื่น เพื่อ จะได้รวมพลังสนับสนุนให้มีการหาข้อเท็จจริง เกี่ยวกับพระจักรพรรดิตาม ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง เราทั้งหลายจักเป็นผู้สร้างกุศล เกิดผลบุญที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งใดๆบนมนุษยโลก และพร้อมใจกันทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย พระมหาโพธิสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก จะเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่กว่าบุญใดๆแก่เราทุกๆคน

(ท่านไม่ต้องกลัวความจริงเรื่องพระ จักรพรรดิจะหลอกท่าน และจะไม่มีใครหลอกคนทั้งโลกได้)

เรื่อง นี้อาจจะรวบรัด แต่เป็นความจริงที่มีเหตุมีผล มีที่มาที่ไป หาหลักฐานข้อเท็จจริงได้ ไม่หลอกลวง ไม่เรี่ยไรเงินทองของมีค่าใดๆ และเป็นไปตามกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าโคตม

ขอสรุปเรื่อง พระจักรพรรดิดังนี้

พุทธทำนาย ทุกศาสนาและพยากรณ์ของผู้มีญาณทิพย์ เช่นนอสตราดามุส เป็นต้น ได้บ่งเช่นเดียวกันว่า พระจักรพรรดิของโลกจะปรากฏในปัจจุบัน และเรื่องนี้มีแนวโน้มเป็นจริง เมื่อมีบุคคลหนึ่งมีหลักฐานมากมายเกินพอ ที่จะหาข้อเท็จจริงโดยชาวโลกตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ว่าใช่พระจักรพรรดิองค์จริง เหตุการณ์ตามคำพยากรณ์ต่างๆ ก็ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันจริง เป็นสักขีพยานอยู่แล้ว

พระจักรพรรดิเป็นคนไทย อยู่ที่ประเทศอเมริกา ซึ่งเพื่อนๆ ของพระจักรพรรดิและพระจักรพรรดิเองได้พยายามหาทางให้มีการหาข้อเท็จจริงใน เรื่องนี้ขึ้น เพราะไม่ต้องการให้เชื่อ ความเชื่อโดยขาดการใช้หลัก กาลามสูตรของพระพุทธเจ้าโคตม อาจนำอกุศลธรรมมาสู่ตน และอาจเป็นบาปที่แก้ไขไม่ได้เกิดขึ้นแก่ตนเอง

สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าเรียกชื่อพระจักรพรรดิว่า ผู้เป็นกัลยาณมิตรหรือเพื่อน แท้ หรือคนจริง (ผู้ยึดมั่นในสัจธรรม) ตามชื่อที่ลัทธิขงจื้อได้บ่งไว้ ชื่อของพระจักรพรรดิมีอยู่ในศาสนาหลักของโลก แต่มีผู้ศึกษาเรื่องนี้น้อยมาก สำหรับพระพุทธเจ้าตรัสเป็นภาษาสันสกฤตคือ เมตฺไตฺรย หรือตามบาลี อ่านว่า เมตฺเตย หรือเขียนเป็น เมตฺเตยฺย

พระจักรพรรดิ เป็นห่วงพวกเรา ไม่ต้องการให้มารเข้าสิงสู่ในจิตของพวกเราได้ จึงจำเป็นต้องให้เราทั้งหลาย รู้จักการใช้กาลามสูตรของพระพุทธเจ้าโคตมในการหาความจริง

คำพูดที่พระจักรพรรดิบอกไว้มีหลักฐาน และเกิดขึ้นเป็นจริงมาโดยตลอด ความสูญเสียด้วยภัยธรรมชาติ ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นไปทั่วโลก เศรษฐกิจโลกก็ย่ำแย่

ในกลางปี 2552 ก่อนที่ประเทศไทย จะมีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น และเป็นอยู่ในขณะนี้ เพื่อนๆและพระจักรพรรดิเอง ได้พยายามอย่างมากที่หาหนทางเพื่อให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระ จักรพรรดิขึ้น เรื่องนี้มีพยานบุคคลและหลักฐาน แต่ในเวลานั้นไม่มีใครสนใจ ถ้ามีการหาข้อเท็จจริงของพระจักรพรรดิขึ้นแล้ว ความเดือดร้อนต่างๆในปัจจุบันไม่ควรเกิดขึ้น เพราะทุกคนจะได้รับความเป็นธรรม ทุกๆคนจะเริ่มเห็นสิ่งที่คนในสมัยโบราณกล่าวไว้ว่า ในสมัยพระจักรพรรดิจะมีแต่ความสุข ไม่เบียดเบียนกัน เรื่องความสันติสุขโลกที่กล่าวกันมา พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้เหมือนกับที่ศาสนาหลักของโลก ที่บ่งไว้แล้วว่าสันติสุขโลกจะไม่มีที่สิ้นสุด

ในขณะนี้ พระจักรพรรดิเห็นว่า ประเทศชาติ กำลังมีความสับสนมาก ความสันติสุขย่อมเกิดขึ้นได้ยาก และจะเป็นรากเหง้าให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับประเทศอิรักได้

พระจักรพรรดิสามารถช่วยนำความสันติสุขกลับคืนมาได้ โดยไม่ต้องใช้กำลัง ไม่ต้องการอาวุธ ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ไม่ต้องการชื่อเสียง ไม่ต้องการที่จะใช้ชื่อพระจักรพรรดิหรือชื่ออื่นๆที่เกี่ยวข้อง แต่จำเป็นที่จะต้องใช้ชื่อนี้ไปก่อนเพื่อการสื่อและทำความเข้าใจกับผู้รับ ฟัง พระจักรพรรดิมีธรรมที่ไม่เคยมีบุคคลใดได้เรียนรู้กันมาก่อน ซึ่งธรรมนี้อยู่กับตัวของพระจักรพรรดิเอง ธรรมนี้เป็นตัวทำลายกิเลสด้วย ธรรมนี้จะใช้เพื่อสร้างสันติสุขโลกเท่านั้น

เมื่อยังไม่มี การหาความจริงจากพระจักรพรรดิ และมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติ พระจักรพรรดิก็มีทางเลือกอยู่แค่สองทางที่จะต้องตัดสินใจ คือ
หนทางหนึ่ง
พระจักรพรรดิเป็นหนุมานเข้าช่วยพระราม (พระนารายณ์อวตาร) คือ พระมหาโพธิสัตว์ของโลก จากพระพุทธทำนายที่มีหลักฐานแน่ชัด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชการที่ 9 พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยในเวลานี้ ก็คือพระมหาโพธิสัตว์ของโลก พระจักรพรรดิสามารถพิสูจน์ความจริงนี้ให้ชาวโลกยอมรับได้ หนทางที่สอง
พระจักรพรรดิได้พยายามที่จะช่วยชาวคริสต์ที่เขาก็ เป็นคนดีมีศีลธรรม ช่วยเหลือผู้คนอื่นที่ตกทุกข์ได้ยากไปทั่วโลก ให้หลุดพ้นออกมาจากพลังของซาตานเสียก่อน แล้วถึงจะปิดศาสนาคริสต์ แต่พระจักรพรรดิยังทำการไม่สำเร็จ ก็มาเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นที่ประเทศไทย ถ้าพระจักรพรรดิจะปิดศาสนาคริสต์ตอนนี้ ความสับสนวุ่นวายอาจเกิดขึ้นไปทั่วโลกได้

ทำไม พระจักรพรรดิต้องปิดศาสนาคริสต์ ที่ต้องปิดก็เพราะว่าเป็นศาสนาของซาตาน (พญามาร) ที่หลอกลวงให้คนไปลงนรก โดยวิญญาณของผู้ที่เชื่อมั่นในลูกของซาตาน (พระศาสดาของศาสนาคริสต์) นั้น จะไม่มีศีรษะ ดังนั้นผู้คนเหล่านี้ถึงแม้ว่าเป็นผู้มีสมองดี ทำการงานเป็นใหญ่เป็นโต แต่วิญญาณของเขาเหล่านั้นไม่มีศีรษะ ซึ่งสังเกตได้ว่า บุคคลเหล่านี้ยึดมั่นถือมั่นมีความเชื่อในสิ่งผิด ซึ่งชาวคริสต์หวังว่าจะได้ผลตอบแทนตามที่มุ่งหวังไว้ โดยไม่ทราบว่า วิญญาณของตน มีมารเข้าสิ่งสู่อยู่ ให้เห็นว่าจะได้ไปสวรรค์ แต่พวกเขาไม่ทราบเลยว่าจะไปนรกแทน ซึ่งพระจักรพรรดิสงสารพวกเขาเหล่านี้ที่ถูกหลอก ทั้งๆที่เขาเหล่านั้นส่วนมากก็เป็นคนดี เหมือนกับคนในศาสนาอื่นๆ ถ้าท่านไม่เข้าใจในเรื่องนี้ ก็คิดถึงคนเฒ่าคนแก่ที่มีจิตใจที่จะทำบุญทำทานอย่างจริงจัง แต่มาถูกมารหลอกลวงเอาเงินทองทรัพย์สมบัติไปจนหมดตัว

เรื่องความเชื่อนี้ ไม่ต่างอะไรกับคนในทุกชาติศาสนา ที่ยึดมั่นถือมั่นในความเชื่อของตน โดยขาดการพิจารณาถึงผลดีผลเสียอย่างแท้จริง หรือพุทธศาสนิกชนที่ขาดการใช้กาลามสูตรของพระพุทธองค์ ให้เป็นประโยชน์ และถ้าความเชื่อของตนนั้นเป็นอกุศลธรรมขั้นร้ายแรง วิญญาณของผู้คนเหล่านั้นก็ไร้ศีรษะเช่นกัน และถูกมารครอบงำให้หลงผิดคิดว่าเป็นสิ่งถูก ซึ่งเป็นผลร้ายเหมือนคนที่ยึดมั่นในลูกของซาตาน

เมื่อพระจักรพรรดิได้พิจารณาเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ในที่สุดพระจักรพรรดิได้ตัดสินใจปิดศาสนาคริสต์ไปเมื่อเดือนเมษายน 2553 โดยพระจักรพรรดิขอให้บารมีที่สะสมมา มีเพียงพอขอให้มีแต่ความสงบ มีความเข้าใจว่า ผู้ปิดศาสนาคริสต์นั้นเป็นใคร ขณะนี้บทความของพระจักรพรรดิที่ปิดศาสนาคริสต์ได้แพร่ไปทั่วโลกแล้ว

สำหรับ พระจักรพรรดิจะช่วยประเทศไทยอย่างไรนั้น ขอเริ่มต้นว่า ขอให้คนไทยใช้สันติวิธีโดยอยู่ในความสงบ การใช้กำลังด้วยวิธีการใดๆของทุกฝ่ายนั้นเป็นวิธีของมาร และเป็นการเพิ่มความบอบช้ำให้ชาติเพิ่มเติมจากความไม่สงบที่เกิดขึ้นแล้วที่ภาคใต้ของไทย

ผู้ที่ใช้ ปัญญาแก้ปัญหาจะอยู่กับเทพ ขอให้พิจารณาวิธีการง่ายๆของพระจักรพรรดิที่ไม่ยุ่งยากอะไร คือ

1. โปรดอดทน อดกลั้น ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯที่ทรงพระราชทานแก่ไพร่ฟ้าข้า แผ่นดินไว้แล้ว (การแปลศัพท์อย่าพึงยึดเฉพาะที่ตนเข้าใจ ความหมายที่ดีกว่า งามกว่ายังมีอยู่)

2. ใช้กาลามสูตรหาความจริงเรื่องพระจักรพรรดิ (คนไทยส่วนมากรู้จักในชื่อพระศรีอารย์ หรือพระเมตไตรย หรือพระศรีอาริยเมตไตรย์)

3. สื่อหรือหน่วยงานกลางของรัฐ จัดหาและตั้งคณะกรรมการนานาชาติ ที่มีความรู้ มีความสามารถจริงๆ เพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงของพระจักรพรรดินี้ จากนั้นความสงบสุขต่างๆจะตามมาเอง

4. โปรดอย่าพึ่งมีความสงสัยในกุศลธรรม จนทำให้การหาข้อเท็จจริงในเรื่องพระจักรพรรดิเป็นไปไม่ได้หรือต้องหยุดลง โปรดพิจารณาถึงพระปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตตนสูตรที่พระพุทธเจ้าโคตมทรงโปรด เบญจวัคคีย์ ให้เห็นกุศลธรรม ก็มีเพียง โกณฑัญญะที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ท่านเห็นแล้วหนอ

5. โปรดเป็นกลาง เช่นตาชั่ง ไม่โอนเอียง ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง และไม่ประมาท ขอให้ยึด กาลามสูตรของพระพุทธเจ้าโคตม เป็นหลักไว้

ข้อมูลอ้างอิงที่พระจักรพรรดิปิดศาสนาคริสต์

1. สามารถค้นหาด้วยคำ “ True Christ 2010 ” ที่ Google ของไทย
ผลการ ค้นหา ท่านจะเห็นวิดีโอสำหรับ true christ 2010 ขึ้นมาเป็น
2010-2012-2013: G4-True Christ of God ... ( แล้วคริกเพื่อดูวิดิโอ)
10 นาที - 7 เม.ย. 2010 เวบของ youtube.com

วิดิโอเรื่องพระจักรพรรดิของแท้ ในตอนต่างๆ จะอยู่ในเวบ youtube.com แห่งเดียวเท่านั้น โดยมีชื่อเรื่องเริ่มต้นด้วย2010-2012-2013:และให้สังเกตตัวเลขว่าเป็นตอนที่เท่าไรนั้น จะอยู่หลัง G หรือ P ซึ่ง G เป็นของ FLM2010 และ P เป็นของ BlueCincy

นี่คือข้อเท็จจริง จะเห็นได้ว่าพระจักรพรรดิ ได้ปิดศาสนาคริสต์จริงๆ ตามวิดีโอที่ปรากฏ ซึ่งอย่างน้อยๆน่าจะแสดง ให้เห็นว่า พระจักรพรรดินั้นมีองค์จริงในขณะนี้แล้ว โปรดคิดว่าคน ธรรมดาจะปิดศาสนาคริสต์เช่นนี้ไม่ได้

2. ค้นหา ที่ Google หรือ MSN หรือ Yahoo ด้วย พระศรีอารย์หรือ ยุคพระศรีอารย์หรือ พระศรีอารย์ 2012” หรือดูที่ เวบ metteya.org ในเรื่องพระศรีอารย์เพิ่มเติมได้ หรือถ้าจะดูภาคภาษาอังกฤษได้ที่ เวบ selfwisdom.net และ fact-of-life.net ที่พวกเราลงข้อมูลเรื่องของพระจักรพรรดิไว้

โปรดอย่าคิด ว่าเรื่องนี้ไร้สาระ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสพุทธทำนายไว้ถูกต้องแล้ว ว่าประเทศไทยจะมีพระโพธิสัตว์ถึงสองพระองค์ ในเวลาปัจจุบันนี้ ดูในสันติสุข-3: พระศรีอารย์ ว่าด้วยหลักฐานตามคำตรัสของพระพุทธเจ้าโคตม ที่พระโพธิสัตว์ทั้งสองพระองค์ จะมาทะนุบำรุงคำตรัสสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตม ให้เป็นเอกยิ่งบนโลกตลอดภัทรกัปครบ 5000 ปีนั้น เริ่มเห็นประกายขึ้นแล้ว

คนไทยควรดีใจที่ได้อยู่ในประเทศของพระมหาโพธิสัตว์ ของโลก และมีพระจักรพรรดิ (พระธรรมมิกราช = ผู้ใช้ธรรมชนะอธรรม) ผู้เป็นไพร่ถวายความจงรักภักดีด้วยชีวิตต่อพระมหาโพธิสัตว์ของโลก พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยพระองค์นี้ ก็คือคนไทยผู้เป็นพุทธศาสนิกชนผู้หนึ่ง

เรื่องที่นำมาลงให้ท่านได้ทราบนี้เป็นของ เวบ metteya.org
------------------------------------------------------------------------------------------

สันติสุข-3: พระศรีอารย์ ว่าด้วยหลักฐานตามคำตรัสของพระพุทธเจ้าโคตม
วัตถุประสงค์

เพื่อให้เข้าใจว่า เรื่องพระจักรพรรดินี้ มีที่มาที่ไป และขอให้คนไทยช่วยกันเผยแพร่เรื่องพระจักรพรรดินี้ และรวมพลัง ร่วมมือร่วมใจผลักดันให้มีการหาข้อเท็จจริงในเรื่องพระจักรพรรดิขึ้น เพื่อพระจักรพรรดิจะได้มาช่วยแก้ปัญหาวิกฤติของชาติในขณะนี้ ด้วยสันติวิธี

เรื่อง พระจักรพรรดิ จากหลักฐานในพระพุทธศาสนา จะไม่เอาข้อมูลมาจากศาสนาอื่นหรือตำนานอื่นๆ หรือคำทำนายโลกมาประกอบ ยกเว้นสรุปตอนท้ายเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้พวกเราได้เห็นว่า ทุกๆศาสนาและคำทำนายของผู้มีญาณทิพย์ได้บ่งเรื่องพระจักรพรรดิไว้เช่นเดียว กัน

ขอเริ่มด้วย ในบางครั้งมีผู้กล่าวว่า พระพุทธศาสนาเสื่อม การกล่าวเช่นนี้ ไม่สมควร เพราะพระพุทธศาสนาประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ซึ่งพระพุทธเจ้าและพระธรรม ไม่เสื่อมแน่ สำหรับพระอริยสงฆ์ และพระสงฆ์ที่ดีก็ยังมีอยู่อีกมาก พุทธศาสนิกชนต้องแยกแยะให้ถูกต้อง
(หมายเหตุเรื่องการใช้ Ref. World Scriptures เพราะเป็นเหตุผลจากที่คณาจารย์นานาชาติ ได้วิเคราะห์และนำข้อมูลร่วมจากเถรวาท (ประเทศศรีลังกา และอินเดีย) จากมหายาน (จีน และญี่ปุ่น) และวัชรยาน (ทิเบต) ทำให้ข้อมูลที่นำมาลงนี้ มีศรัทธา มีความถูกต้องยิ่งขึ้น)

พระพุทธเจ้าโค ตตมทรงตรัสเรื่องความเสื่อมของสงฆ์นี้ไว้ล่วงหน้า ก่อนเสด็จปรินิพพาน สรุปตาม

อนาคตวงศ์ (Ref. World Scriptures) ด้วยเหตุ 5 ประการดังนี้

1. การเสื่อมของความสำเร็จมรรคผล
2. การเสื่อมของการปฏิบัติและการเจริญภวนา
3. การเสื่อมของการศึกษาพระธรรมและการเข้าถึงพระธรรม
4. การเสื่อมของพระสงฆ์และบูรพาอาจารย์
5. การเสื่อมของวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา

ที่ยกประเด็นนี้ขึ้นมา เพราะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของพระจักรพรรดิ และเพื่อให้เข้าใจว่า การฟังพระสงฆ์หรือบุคคลใดก็ตาม ต้องคิดพิจารณาถึงเหตุผลด้วยว่า เป็นไปตามกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าอย่างไรหรือไม่ มีเหตุมีผลไหม มีข้อเท็จจริงหรือไม่ มีหลักฐานประกอบประการใด และเมื่อนำไปปฏิบัติแล้วเป็นกุศลธรรม เป็นบุญหรือไม่

ที่นำเรื่อง พระจักรพรรดิ (พระศรีอารย์) มากล่าว ก็เพราะประเทศชาติในเวลานี้อยู่ในขั้นวิกฤติ คงแก้ไขได้ยาก เพราะความเชื่อที่ตรงข้ามกัน และยังฝังอยู่ในจิตใจของแต่ละฝ่าย หาที่ยุติไม่ได้ ฉะนั้นคงต้องช่วยกันหาความจริงในเรื่องพระจักรพรรดิ ถ้าเป็นจริงพระจักรพรรดิจะได้ช่วยนำความสันติสุขกลับคืนมาสู่ประเทศไทยได้

โปรด พิจารณาเรื่องที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ต่อไปนี้ ด้วยความตั้งใจ และไม่ประมาท ท่านจะเห็นเองว่าเรื่องพระจักรพรรดินั้นเป็นเรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นในเวลา นี้จริง

จากอนาคตวงศ์ (Ref. World Scriptures)

พระอานนท์เล่าว่า ในกาลครั้งหนึ่ง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคตม ทรงพักอยู่ ณ ภายใต้ร่มไทร (Banyan) พร้อมด้วยหมู่สงฆ์ ที่ริมฝั่งแม่น้ำโรฮินี (Rohini) ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ พระพุทธองค์ทรงตรัสตอบคำถามของของพระเถระสารีบุตรที่ทูลถามในเรื่องพระ จักรพรรดิว่า จะมาปรากฏในภายภาคหน้า (the future Conqueror) นั้นเป็นท่านใด พระผู้มีพระภาคทรงตรัสตอบว่า ขอท่านโปรดตั้งใจฟัง ก่อนหน้าตถาคตนั้นมีพระพุทธเจ้ามาแล้ว 3 พระองค์ คือ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมพุทธเจ้า และพระกัสสปพุทธเจ้า ขณะนี้ตถาคตผู้เป็นพระพุทธเจ้าโดยสมบูรณ์ คือ พระศากยมุนีโคตมพุทธเจ้า ต่อไปจะเป็นพระอริยเมตตรัย (พระศรีอารย์) หรือ เมตฺเตย Metteya (อ่านบาลี) เมตฺเตยฺย Metteyya (เขียนบาลี) ไมเตฺรยะ Maitreya (ภาษาสันสกฤต) ซึ่งหมายถึงกัลยาณมิตร (เพื่อนแท้) ซึ่งพระเมตฺเตยจะมาปรากฏ ก่อนที่ ศุภมงคลสมัย (ภัทรกัป) ของตถาคตจะจบสิ้นลง คำตรัสของผู้มีพระภาคบ่ง ชัดเจนว่า พระจักรพรรดิจักปรากฏขณะที่พระพุทธศาสนายังคงดำเนินอยู่

ซึ่ง เรื่องการมาปรากฏของพระจักรพรรดิก่อนปี พ.ศ. 5000 มีหลักฐานอื่นๆสนับสนุนดังนี้

1. หลักฐานในพุทธทำนายตามอักษรบนศิลาจารึก ในเขตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย บ่งว่าพระจักรพรรดิจะมาปรากฏในกึ่งพุทธกาล คือครึ่งหนึ่งของ 5000 ปี หรือ ประมาณ พ.ศ. 2500 หลังจากปรินิพพานของพระศากยมุนีโคตมพุทธเจ้า (ข้อสังเกต: พ.ศ. ของเถรวาทนั้นสามารถพิสูจน์ได้ว่าเร็วไปประมาณ 50 ปี)

จากเอกสารแจกฟรีของ สุริยัน โรหิตเสถียร พ.ศ. 2538 และของ รศ.ดร.พิชัย โตวิวิชญ์ ภาควิชาเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2540 สรุปได้ว่า คณะธรรมทูตไทยผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและต้นศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศ อินเดียได้คัดลอกพุทธทำนายมาจากศิลาในสวนมฤคทายวันเมื่อ พ.ศ. 2484

ซึ่งบ่งถึงพระพุทธเจ้าก่อนเสด็จปรินิพพานทรงเป็นห่วงผู้คนในกึ่งพุทธกาล จึงตรัสกับพระอานนท์ ดูกรอานนท์ ยักษ์หิน (คนเลวคนชั่ว) ถูกสาปกลับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งนัก เริ่มแต่ศาสนาตถาคตล่วงได้ 2485 ปี หรือประมาณ พ.ศ. 2533 ในปัจจุบัน (พ.ศ.ไทยเร็วกว่าความเป็นจริงประมาณ 48 ปี) ไฟจะลุกลามไหม้วัดวาอาราม (ศาสนาอื่นเข้ามาเผยแพร่แทน พระสงฆ์ไม่อยู่ในวินัย) คนบ้านจะเข้าป่า (คนเมืองจะรุกป่า จับจองหาประโยชน์) สัตว์ป่าจะเข้ากรุง (สัตว์ป่าบุกรุกหาของกินในถิ่นผู้คนอาศัย) เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ มหาสมุทรจะชอกช้ำ (สภาวะสิ่งแวดล้อมเสียหายเพราะฝีมือมนุษย์) สงครามต่างๆเช่นการแบ่งแยก ยาเสพติดจะทั่วทิศ ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก (ผู้คนยากจนขึ้น) พลูหมากจะหมดเปลือง (ติดสินบนผู้มีอำนาจ) ปราชญ์เปรื่องจะสูญสิ้น (ผู้มีปัญญาความรู้จะถูกกด)

ราชตระกูลอำมาตย์ ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม เชื่อถือถ้อยคำของคนโกง คนกล่าวเท็จ คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือ ผู้ดีมีศีลประพฤติชอบไม่มีเสียง (อธรรมจะถือโอกาสถืออำนาจ แต่ฝ่ายธรรมไม่มีโอกาสเผยแผ่สิ่งดีงาม) จะเกิดจลาจลวุ่นวาย เด็กไม่อยู่ในโอวาทของพ่อแม่ ทำตามความคิดของตน ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง (เมืองหลวงจะมีแต่สิ่งเลวทราม ความเสื่อมต่างๆจะเกิดขึ้นมากมาย อบายมุขและกามรมณ์จะเกิดเพิ่มมากขึ้น ศีลธรรมจะลดน้อยถอยลง)

แต่ในเวลาเดียวกัน จักมีสิ่งดีงามยิ่งบังเกิดขึ้นบนโลก คือจะมีพระโพธิสัตว์ถึงสองพระองค์ในประเทศพระพุทธศาสนาที่มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข และประเทศนี้อยู่ในกลางของชมพูทวีป (ทวีปของพระพุทธศาสนา) พระองค์หนึ่งคือพระมหาเถรโพธิสัตว์ และอีกพระองค์หนึ่งคือพระธรรมมิกราช (ผู้ใช้ธรรมชนะอธรรม = พระจักรพรรดิ) เพื่อมาสร้างสันติสุขแก่ชาวโลกและทะนุบำรุงศาสนาของตถาคตให้อยู่ครบตลอด ภัทรกัป คือต่อไปอีก 2500 ปี ข้อมูลจากเวบ metteya.org

2. พระ ไตรปิฎกเล่มที่ 7 วินัยปิฎกที่ 7 จุลวรรค ภาค 2 เรื่องพระนางมหาปชาบดีโคตรมี สรุปว่า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ก็ถ้าสตรีจักไม่ได้ออกจากเรือนบวช เป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว พรหมจรรย์จักตั้งอยู่ได้นาน สัทธรรมจะพึงตั้งอยู่ได้ตลอดพันปี ก็เพราะสตรีออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว บัดนี้ พรหมจรรย์จักไม่ตั้งอยู่ได้นาน สัทธรรมจักตั้งอยู่ได้เพียง ๕๐๐ ปีเท่านั้น ซึ่งถ้าเราได้ศึกษา เรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสนี้ เป็นจริง คือ เริ่มจากการผิดเพี้ยนของพระไตรปิฎกที่มีมาแต่สมัยโบราณก่อนแล้ว ดังมีข้อแสดงเช่น เอกสารเกี่ยวกับการชำระและการจารึก พระไตรปิฎก ในรัชกาลที่ ๑ (จากหนังสือพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา) พระไตรปิฎกธรรมทุกวันนี้ ยังถูกต้องบริบูรณ์อยู่หรือพิรุธผิดเพี้ยนประการใด จึ่งสมเด็จพระสังฆราชพระราชาคณะทั้งปวง พร้อมกันถวายพระพรว่า พระบาลี และ อรรถกถาฎีกาพระไตรปิฎกทุกวันนี้พิรุธมากมาช้านานแล้ว (อ้างอิง: พระไตรปิฏก และ พระไตรปิฏกฉบับประชาชน โดยคุณสุชีพ ปุญญานุภาพ)

3. พระ ไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 19 ขุททกนิกาย ชาดก เอกกนิบาต ชาดก วรุณวรรค มหาสุบินชาดก เป็นเรื่องครั้งเมื่อพระบรมศาสดา เมื่อครั้งประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภมหาสุบิน ๑๖ ข้อ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ต่อพระเจ้าโกศลมหาราช ถ้าท่านใดอ่าน จะเห็นว่าเมื่อสรุปแล้วคล้ายกับพุทธทำนายบนศิลาจารึกในเขตมหาวิหารในสวน มฤคทายวัน ตามข้อ 1 ข้างบน แต่ข้อมูลบนศิลาจารึกให้ความชัดเจนมากขึ้นอาจเพราะเป็นการสรุป โดยเฉพาะบ่งบอกเวลา และพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตม ทรงตรัสปี พ.ศ. ที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตรงมากๆ และตรัสถึงพระมหาโพธิสัตว์ (พระมหาเถระโพธิสัตว์) พ่อหลวง ร. 9 ที่เป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย และพระจักรพรรดิ (พระธรรมิกราช) ที่มีองค์จริงในขณะนี้ ดูข้อมูลเพิ่ม ได้ที่พระศรีอารย์ 2012” หรือ ยุคพระศรีอารย์แล้วไปคลิกลิงค์ "หนทางอยู่รอดในวิกฤติปัจจุบันและอนาคตที่ผู้มีบุญไม่ประมาท จะไม่มองข้าม" และคลิกลิงค์ ตอน 2” อ่านพุทธทำนาย

จากหลักฐานใน พระไตรปิฎก และเอกสารบันทึกข้อมูลสำคัญๆทางพระพุทธศาสนา มีเพียงพอที่แสดงเป็นหลักฐานในเรื่องการปรากฏของพระจักรพรรดิในเวลาปัจจุบัน และข้อมูลทั้งหลายยังสนับสนุนกันเองว่า พระจักรพรรดิ (พระศรีอารย์) มาปรากฏในปัจจุบันจริง และจะมาปรากฏ ก่อนพระพุทธศาสนาจะหมดสิ้นไป สำหรับพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนส่วนมาก ที่เข้าใจว่าพระจักรพรรดิ (พระศรีอารย์) จะมาปรากฏเมื่อพระพุทธศาสนาหมดสิ้นไปแล้ว เป็นเรื่องไม่มีหลักฐานที่เป็นเหตุเป็นผล ฉะนั้นเราไม่ควรเชื่อตามกันไปโดยขาดการใช้กาลามสูตร นี่เป็นบทเรียนที่สำคัญ เป็นเหตุแห่งความประมาท

จักรพรรดิ สิงหนาท สุตตันตะ (Ref. World Scriptures)

พระผู้มีพระภาคทรงตรัสถึงพระจักรพรรดิไว้ดังนี้
ในวันข้างหน้าไม่นานจากที่ตถาคตปรินิพพานไปแล้ว จะมีบุคคลท่านหนึ่งปรากฏขึ้นบนโลก เป็นผู้สูงส่งด้วยศีลธรรม เป็นผู้ที่ทราบความเป็นจริง มีความสมบูรณ์ พร้อมด้วยปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเช่น ตถาคตนี้ บุคคลท่านนี้หยั่งรู้การเกิด การดับของจักรวาล ทรงหยั่งรู้ทั้งพรหมและมาร และการดำเนินไปของโลกธรรมของสัตว์ทั้งหลาย บุคคลท่านนี้ทราบการกำเนิดของผู้สูงศักดิ์ และสามัญชนธรรมดา และหยั่งรู้ทั้งทางวัตถุและวิญญาณ ทั้งทางโลกและทางสวรรค์ บุคคลท่านนี้สามารถอธิบายการดำเนินไปของธรรมนั้นๆ โดยบุคคลท่านนี้มีจิตใจบริสุทธิ์ และจะมีศิษย์สนับสนุนมากมายเกินกว่าที่ตถาคตมีอยู่

สรุป หมายเหตุที่สำคัญยิ่ง

ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตมทรงตรัสไว้ในเรื่องพระ จักรพรรดิเป็นจริง มีข้อเท็จจริงเป็นหลักฐานสามารถนำมายืนยันได้ดังนี้

1. ที่ผู้มีพระภาคตรัสว่า บุคคลท่านนี้หยั่งรู้การเกิด การดับของจักรวาลเรื่องนี้เป็นจริง เพราะพระจักรพรรดิประกาศว่า ที่ CERN - the European Organization for Nuclear Research หา Big Bang นั้นเป็นวิธีที่ไม่ถูก แสดงว่าพระจักรพรรดิรู้เรื่องการเกิดการดับของจักรวาลดี ตามที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้ว

2. คัดลอกมาจาก สันติสุข-2: พระศรีอารย์ กับ NASA… “พระจักรพรรดิประกาศให้ NASA (นาซ่า) CNSA, ESA, JAXA, RKA, ซึ่งเป็นองค์การอวกาศที่สำคัญของโลกทราบเรื่องนี้ รายละเอียดอยู่ในวิดิโอ โปรดสังเกตว่าถ้าพระจักรพรรดิไม่ทราบเรื่องใดดีแล้ว ก็คงไม่กล้าประกาศ ออกไป

3. โปรดอย่ามีข้อสงสัยในกุศลธรรมของพระจักรพรรดิ มาหยุดหนทางการนำสันติสุขมาสู่ประเทศชาติ ที่กำลังมีวิกฤตแก้ไขได้ยากในขณะนี้ โปรดพิจารณาถึงพระปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ที่พระพุทธเจ้าโคตมทรงโปรดปัญจวัคคีย์ ให้เห็นพระธรรมของพระพุทธองค์ แต่ก็มีแค่ โกณฑัญญะที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ท่านเห็นแล้วหนอ แล้วพราหมณ์อีกสี่ท่านล่ะ ทำไมไม่เห็น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาต่อๆมาจึงได้มีดวงตาเห็นพระธรรมของพระผู้มีพระภาค เป็นไปตามลำดับ สุดท้ายปัญจวัคคีย์ ทั้งหมดได้เป็นภิกษุสาวกของพระพุทธองค์ ดังนี้ พระอัญญาโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ
(ที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพื่อชี้ว่า จะให้ทุกคนเห็นพร้อมกันเลยที่เดียวก่อน ย่อมไม่ทันการ ขณะที่ประเทศชาติกำลังอยู่ในวิกฤติ ถ้ามีการพิสูจน์ความจริงโดยคณะกรรมการนานาชาติ จะทำให้ผู้คนเริ่มสนใจและเข้าใจมากขึ้น)
4. พระพุทธเจ้าทุกพระองค์มีมารมาคอยทำลาย ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับพระ พุทธเจ้าโคตม

4.1 พระเทวทัตต์ ผู้ที่คอยจองล้างจองผลาญกับพระพุทธเจ้าโคตม มาแต่อดีตชาติ และในปัจจุบันชาติ ยังก่ออนันตริยกรรมคือพยายามลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้า และก่อการสังฆเภท ทำให้คณะสงฆ์แตกแยกกัน

4.2 นางจินจมานวิกา ที่มาทำอุบายว่า ท้องกับพระพุทธเจ้าโคตม

มารก็พยายามที่จะหยุดพระจักรพรรดิเช่นเดียวกัน ฉะนั้นกาลามสูตรจักช่วยท่านได้ ความจริงเป็นกุศลธรรมเป็นเช่นไร

คนเรามีบุญติดตัวกันอยู่เท่าไร สิ่งดีงามมากๆ เราอาจไม่สามารถเห็นได้ทันที เพราะอิทธิพลของมารนั้นมีมากกับชีวิตของเรา ซึ่งประมาทไม่ได้

ดังนั้น พวกเราคนไทยควรลดข้อสงสัยในกุศลธรรมที่มีอยู่กับพระจักรพรรดิ พยายามรวมพลังผลักดันให้มีการหาข้อเท็จจริงเรื่องพระจักรพรรดิขึ้นโดยเร็ว เพื่อพระจักรพรรดิจักได้มาช่วยแก้วิกฤตของชาติในขณะนี้ได้ และนำความสันติสุขมาสู่มนุษยโลกต่อไป

ถามตัวท่านเองว่า ท่านเคยได้เห็น ได้ฟัง เรื่องดีงามยิ่งเช่นนี้มาก่อนหรือไม่ ที่เราทั้งหลายจะมีโอกาสหาความจริงนี้ ทำไมเรายังไม่เห็นสิ่งดีงามที่อยู่ตรงหน้า เหมือนกับ ราชรถมาเกยและพระราชาทรงเชื้อเชิญให้เราขึ้นไปบนพระราชรถ เราก็ยังไม่ขึ้น แต่ถ้าท่านใดเห็นประโยชน์เรื่องพระจักพรรดินี้แล้ว ขอได้โปรดช่วยกันอธิบายให้ผู้ที่ยังไม่เห็นประโยชน์ได้เข้าใจถึงสิ่งดีงาม จักเป็นบุญแก่ตัวท่านเอง

สำหรับเวลาการมาปรากฏของพระจักรพรรดิ
จะทราบได้จากเรื่องในพระมหาปรินิพพาน (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร) คือ

1. ท่านผู้มีฤิทธิ์บันดาลให้เป็นไป (มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ความจริงได้)
2. พระตถาคตเจ้าตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ (พระจักรพรรดิทราบธรรมวิเศษในต้นปี พ.ศ. 2535)
3. พระตถาคตเจ้าให้พระอนุตตรธรรมจักรเป็นไป (พระจักรพรรดิกำหนดขึ้นไว้)

เรื่อง นี้ ผู้ที่ติดตามข่าวไปทั่วโลกตลอดมา จะทราบดีว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา โลกนั้นผิดปกติไปเพียงไร ได้เกิดภัยธรรมชาติต่างๆไม่หยุด ซึ่งเป็นจริงตามที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสไว้แล้วในพระมหาปรินิพพาน ตามข้อ 1, 2 และ 3. ข้างบน
และโปรดพิจารณา สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี บอกกล่าว 10 รัชการสำหรับกรุงรัตนโกสินทร์ ว่ารัชการที่ 9 “ถิ่นกาขาวคือ กานั้นดำ (คือความทุกข์ยาก) พอเป็นกาขาวหมายถึงกลับด้าน สีขาวคือความบริสุทธิ์ ฉะนั้นตรงกับพุทธทำนาย คือสิ่งดีจะเกิดขึ้นในรัชการที่ 9 และรัชการที่ 10 “ศรีวิไลคือประเทศชาติจะดีพร้อมทุกประการ (ตรงกับพุทธทำนาย) คือ พระโพธิสัตว์ทั้งสองพระองค์ (พ่อหลวงของชาวไทย [ร.9] และพระธรรมมิกราช [พระจักรพรรดิ]) ที่จะสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นบนโลก

หมายเหตุ ยังมีข้อมูลสนับสนุนอีกมาก และมีเรื่องสำคัญๆ แต่ที่นำมาแค่นี้ น่าจะเพียงพอเป็นข้อพิจารณาเบื้องต้นแล้ว

สรุปว่า

1. จากข้อ 1. หลักฐานในพุทธทำนาย พระจักรพรรดิไม่ใช่พระศาสดา ดังนั้น
ศาสนา พระศรีอารย์ ไม่มี

2. จากที่พระพุทธเจ้าโคตมทรงตรัสในชื่อ จักรพรรดิสิงหนาท สุตตันตะ "เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเช่น ตถาคตนี้" ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นพระศาสดา แต่เป็นพระจักรพรรดิผู้รู้เองโดยชอบ และ
จะมานำผู้คนสร้างสันติสุขขึ้นบนโลก และยังช่วยพระมหาโพธิสัตว์ ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้อยู่ตลอดภัทรกัป จนครบ 2500 ปีจากนี้ไป

3. ท่านไม่ต้องกลัวถูกหลอก เพราะถ้าไม่ใช่พระจักรพรรดิองค์จริง
คงไม่กล้าไปยุ่งกับเซิร์น (CERN) หรือองค์การอวกาศระดับโลกเช่น นาซ่า (NASA) หรือ อิซ่า (ESA) จากหลักฐานไม่เฉพาะแค่ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสในเรื่อง จักรพรรดิสิงหนาท สุตตันตะศาสนาอิสลาม และ ลัทธิขงจื้อก็บ่งไว้เช่นเดียวกันว่า พระจักรพรรดิมีความรู้ยิ่งที่พระจักรพรรดิรู้เองโดยชอบ

4. ด้วยหลักฐานทางพระพุทธศาสนาตามที่กล่าวมา ตรงกับคำพยากรณ์ของศาสนาอื่นและตรงกับคำทำนายของนอสตราดามุส และผู้มีญาณทิพย์ท่านอื่นๆ ตลอดจนตรงกับความผิดปกติของธรรมชาติในเวลาปัจจุบันนี้ ซึ่งชี้ว่าพระจักรพรรดิจะปรากฏในปัจจุบันเพื่อสร้างสันติสุขของโลกนั้นมี ความเป็นไปได้มาก สรุปแล้วเรื่องพระจักรพรรดิเป็นไปตามหลักการและมีเหตุมีผล มีหลักฐานอ้างอิงโดยข้อเท็จจริงอยู่ที่ว่า จะมีการพิสูจน์เรื่องพระจักรพรรดิหรือไม่

ถ้ามีการพิสูจน์ความจริงเรื่องพระจักรพรรดิ และถ้าใครอยากเป็นพระจักรพรรดิก็ควรให้เขาเหล่านั้นสมัครได้ ขอให้เปิดเสรีภาพแด่ทุกท่าน แต่ก่อนอื่นคิดกันก่อนว่า ท่านมีหลักฐานอะไร ที่จะแสดงต่อคณะกรรมการนานาชาติและประชาชนทั่วโลก


5. สันติสุข-4: กล่าวถึง "พระศรีอารย์ ทำไมปิดศาสนาคริสต์" คิดง่ายๆ ว่าคนธรรมดาจะไปปิดศาสนาคริสต์ได้อย่างไร
พระจักรพรรดิองค์จริงมีหลักฐานต่างๆ อาจมากเกินพอ ที่จะใช้หาข้อเท็จจริง

พระจักรพรรดิปรากฏแล้วในปัจจุบัน แต่ยังไม่แสดงองค์ เพราะประชาชนไม่สนใจหาข้อเท็จจริงตามกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าโคตม โปรดติดตามความจริงใน
ตอนต่อไป "สันติสุข-4: พระศรีอารย์ ทำไมปิดศาสนาคริสต์ ผุ้มีบุญจะเห็นความจริง"

เรื่องที่นำมาลงให้ท่านได้ทราบนี้เป็นของ เวบ metteya.org (เวบภาษาไทยที่รู้จักระดับโลก ในเรื่อง พระศรีอารย์หรือ “metteya”)
------------------------------------------------------------------------------------------

สันติสุข-2 (แก้ไข เพิ่มเติม): พระศรีอารย์ - NASA กับคำทำนายนอสตราดามุสที่สำคัญยิ่ง
แก้ไข เพิ่มเติม เมย. ุ6-53: ในเวลาปัจจุบันนี้ มีภัยพิบัติสารพัดทิศ เกิดขึ้นมากและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ภูมิอากาศก็ผิดธรรมชาติ และยังมีเรื่องที่นอกเหนือความคาดคิดของคนทั่วไป ได้เกิดขึ้นอย่างเช่น มนุษย์ดาวอังคารแสดงตนเองว่ามีจริง โดยตอบข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์ของโลกที่ส่งตรงไปยัง M13 ในห้วงอวกาศลึก การตอบโต้ของมนุษย์ต่างดาว ทำให้นักวิทยาศาสตร์ของโลกในขณะนี้ยอมรับแล้วว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง และพวกมนุษย์ดาวอังคารยังบ่งว่า พวกเขาส่วนหนึ่งอาศัยอยู่บนโลกของเราอีกด้วย ดูเรื่องนี้ได้จาก metteya.org “นักวิทยาศาสตร์-มนุษย์ต่างดาวคำค้นหาบนอินเทอร์เ้นตคือ พระศรีอารย์ได้ที่ Google, msn, yahoo

เกี่ยวกับเรื่องพระจักรพรรดิ (พระศรีอารย์) สามารถปรากฏองค์ในปัจจุบันนี้ได้จริง มีหลักฐานสนับสนุนมากมายจากพระพุทธเจ้าโคตม ศาสนาสำคัญๆ ของโลก และคำทำนาย เช่น นอสตราดามุส และแต่ละคำทำนายต่างๆ ยังสนับสนุนซึ่งกันและกันว่า พระจักรพรรดิจักปรากฏในปัจจุบัน ขณะเดียวกันมีผู้แอบอ้างเป็นพระจักรพรรดิมากมาย เกิดขึ้นไปทั่วโลก โดยเขาเหล่านั้นใช้ชื่อเรียกต่างๆกัน เช่น พระศรีอารย์ หรือไมเตรยะ เป็นต้น ผู้แอบอ้างทั้งหลาย จะไม่สามารถแอบอ้างสวมรอยเป็นพระจักรพรรดิองค์จริงได้ เพราะหลักฐานที่สำคัญๆอยู่ในตัวของพระจักรพรรดิองค์จริงเท่านั้น

เป็นที่น่าสังเกตว่า ในคำทำนายต่างๆ รวมถึงพุทธทำนาย จะบ่งบอกลักษณะ และเหตุการณ์ไว้ก่อนล่วงหน้านับพันๆปี หลายร้อยปี เช่นคำทำนายของนอสตราดามุส ที่บ่งว่าพระจักรพรรดิเกิดที่เมืองที่เคยเป็นทะเลมาก่อน เมืองนี้วัดหาขอบเขตไม่ได้ ซึ่งก็คือเมืองเทวดา มนุษย์ไม่สามารถวัดขนาดใดๆ ของเมืองเทวดาได้ และเมืองนี้ก็คือกรุงเทพฯบนโลก ที่หมื่นปีมาแล้วยังเป็นทะเลอยู่ และบอกเรื่องราวที่พระจักรพรรดิเป็นพุทธศาสนิกชน แต่ไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา บอกเมืองที่พระจักรพรรดิอยู่ในปัจจุบันนี้ บ่งแม้บ้านที่อยู่เป็นอย่างไร คำทำนายของนอสตราดามุสมีมาก่อนที่จะมีประเทศอเมริกาเสียอีก
คำทำนายของนอสตราดามุสบ่งบอกเรื่องพระจักรพรรดิมีมากประมาณ 30 คำทำนายหรือมากกว่า ซึ่งมีความสำคัญยิ่ง เพราะจะชี้ว่านั่นคือพระจักรพรรดิองค์จริง คัมภีร์ของยิว แม่บทศาสนาคริสต์ บอกชื่อจริงของพระจักรพรรดิมาล่วงหน้าแล้ว ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ นี่เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กน้อยของหลักฐาน และที่สำคัญยิ่งคือ พระสูตรสร้างสันติสุขโลกอยู่ในตัวของพระจักรพรรดิ

ฉะนั้นท่านทั้งหลายไม่ต้องกลัวว่า จะมีใครไปปลอมแปลงเป็นพระจักรพรรดิได้ และท่านเองก็จะไม่ถูกใครหลอก เพราะจะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ มีผู้คนทั่วโลกเป็นพยาน

คำถาม: ทำไมพระจักรพรรดิไม่ใช้อิทธิปาฏิหาริย์ และปรากฏองค์ให้ชาวโลกรู้จัก
คำตอบ: พระจักรพรรดิไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตม ทรงตรัสไว้ดีแล้วว่า

พระพุทธองค์ทรงรังเกียจ ไม่โปรด ไม่ โปร่งพระทัยต่ออิทธิปาฏิหาริย์” (การแสดงฤทธิ์ต่างๆ) และ อาเทศนาปาฏิหาริย์” (การทายใจคนอื่นได้) เพราะทรง เห็นโทษว่า คนที่เชื่อก็เห็นจริงตามไป ส่วนคนที่ไม่เชื่อได้ฟังแล้ว ก็หาช่องขัดแย้งคัดค้านเอาได้

พระพุทธองค์ ทรงสนับสนุนอนุสาสนีปาฏิหาริย์คือปาฏิหาริย์ที่เป็นคำสอนที่เป็นจริง สอนให้เห็นจริง และ นำไปปฏิบัติได้ผลสมจริง (สรุปจากคำสอนของ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) สำหรับผู้ที่ต้องการค้นคว้าในพระไตรปิฎกย่อมทำได้)

ถ้าท่านอ่านเรื่องพระจักรพรรดิโดยตลอด จะเห็นว่าพระจักรพรรดิชี้แนะให้มีการพิสูจน์ตามหลักการวิทยาศาสตร์ และให้เป็นไปตามกาลามสูตร ซึ่งเป็นไปตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้แล้ว

คำถาม: ถ้าพระจักรพรรดิมีองค์จริงทำไมไม่ออกมาแสดงตนว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน
คำตอบ: พระจักรพรรดิมีจริงมาแล้ว 18 ปี แต่ไม่สอนใคร ไม่แสดงตนต่อบุคคลทั่วไปถ้าผู้คนทั่วไปไม่
พิสูจน์ความจริง เพราะเรื่องนี้สำคัญมากๆ และเกี่ยวข้องกับทุกศาสนาและลัทธิที่สำคัญๆของโลก การสร้างสันติสุขที่แท้จริงย่อมต้องได้รับการยินยอมในทุกๆฝ่าย ดังนั้น พระจักรพรรดิจำเป็นต้องดำเนินการตามกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าโคตม (โดดม) คือไม่ใช้ความเชื่อด้วยประการใดๆทั้งปวง นอกจากการพิสูจน์ความเป็นจริงเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เอง ที่พระจักรพรรดิได้พยายามให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงขึ้น โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินานาชาติ ประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์และศาสนาศาสตร์เป็นสำคัญ และท่านจะให้คณะกรรมการฯ พิสูจน์ มีคนทั่วไปเป็นพยาน ซึ่งตำนานของหลายศาสนาชี้ว่า พระจักรพรรดิจะป้องกันตนเองด้วยความรู้ที่ผู้อื่นไม่มี และความรู้นี้มาจากตัวของพระจักรพรรดิเอง

คำถาม: การหาความจริง เพื่อให้พระจักรพรรดิแสดงตน เพื่อสร้างความสงบสุข ความสันติสุขของประเทศไทยที่พระจักรพรรดิเกิด ที่มีปัญหายุ่งยาก ที่จะแก้ไขไม่ได้ในขณะนี้ และของโลก มีอะไรที่ทำให้คนไทยส่วนมากกลัว ไม่กล้าจะหาความจริงกัน หรือการขาดความรู้ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสในเรื่องพระจักรพรรดิไว้ล่วงหน้า แล้ว
คำตอบ: ก็ต้องช่วยกันหาว่าทำไม

คำถาม: ทำไมคนเราต้องการพระจักรพรรดิ
คำตอบ: ขณะนี้เราอยู่ในปลายกลียุค (ยุคคนไม่ดี 3/4 คนดีมีแค่ 1/4) ที่พระจักรพรรดิจะนำผู้คนเข้าสู่ยุคใหม่ คือยุคทอง (กฤดายุค คนดีเต็มทั้ง 4 ส่วน) โดยที่โลกจะเปลี่ยนเป็นเหมือนเมืองสวรรค์ มนุษยโลกจะมีแต่สันติสุข การเป็นอยู่ของมนุษย์ก็เป็นไปด้วยความเป็นธรรม ผู้คนไม่มีทุกข์ร้อนประการใด ไม่มีการเบียดเบียนกัน ผู้คนมีกิน มีใช้ ไม่อดอยาก มีที่อยู่อาศัย ฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาล แต่การเข้าสู่ยุคใหม่ที่พุทธทำนาย และคำทำนายโลกที่บ่งไว้ตรงกัน มีอยู่สองทางคือ

1. พระจักรพรรดิจะนำชาวโลกเข้าสู่ยุคทองโดยไม่เกิดโลกาวินาศ (ภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุด) แต่ประชาชนโลกจะต้องพิสูจน์ความจริงเรื่องพระจักรพรรดิก่อน ซึ่งการหาข้อเท็จจริงไม่มีความผิดใดๆ หรือถ้าไม่หาความจริงก็เป็นไปตามข้อ 2

2. ถ้าผู้คนไม่ยอมพิสูจน์ข้อเท็จจริงของพระจักรพรรดิ เทพสูงสุดจะล้างโลกในปี พ.ศ. 2556 โดยจะลดประชากรโลกลง 90% เหลือเพียง 10% เท่านั้น ผู้ที่รอดจะเป็นคนดี มีศีลธรรม เรื่องโลกาวินาศเราอย่าไปโทษพระองค์ท่าน พระองค์ทรงบอกไว้ล่วงหน้าแล้ว

ขอให้คิดว่าถ้าเราเป็นเชื้อโรคอยู่ในตัวของคนไข้บุคคลหนึ่ง หมอพยายามรักษาผู้ป่วยก็ด้วยการทำลายเชื้อโรคนั้น มนุษย์นี่ก็เป็นเชื้อโรคร้าย ซึ่งพระองค์ได้ส่งพระจักรพรรดิมาเพื่อช่วยให้เราทั้งหลาย ประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร เป็นเชื้อโรคที่ดี จะได้อยู่กันอย่างมีความสุขตลอดไป ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่มนุษย์ทั้งหลายนี่เอง (ข้อมูลตามหลักฐานที่มีอยู่บนแผ่นหินยักษ์ ที่ GA. USA ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า คำต่างๆที่อยู่บนแผ่นหินนี้ เป็นคำของเทพสูงสุดที่อยู่เบื้องบน)

พวกเราที่ USA ได้ออกวิดิโอเวปไปทั่วโลก เกี่ยวกับพระจักรพรรดิประกาศให้ NASA (นาซ่า) CNSA, ESA, JAXA, RKA, ซึ่งเป็นองค์การอวกาศที่สำคัญของโลก และคนทั่วไปทราบว่า ในปี พ.ศ. 2556 จะเกิดโลกาวินาศด้วยสิ่งที่ไม่มีนักวิทยาศาสตร์ท่านใดทราบมาก่อน ยกเว้นพระจักรพรรดิ และพระจักรพรรดิเท่านั้นที่จะหยุดโลกาวินาศนี้ได้ แต่คนทั้งหลายจำเป็นต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงของพระจักรพรรดิก่อน เรื่องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระจักรพรรดิ ได้มีหนังสือถึงบุคคลสำคัญๆ และสื่อ ตย. หนังสือถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และสิ่งที่บ่งไว้ในหนังสือได้เกิดขึ้นเป็นจริงมาโดยตลอด (จะหาเวลาแปลบทความที่จำเป็น เป็นภาษาไทยให้อ่านกันต่อไป)
ท้ายนี้ขอให้บันทึกว่า พระจักรพรรดิไม่ต้องการสิ่งใดๆตอบแทนในการนำผู้คนสร้างสันติสุข เพียงแต่ว่าท่านกระทำไปเพราะเป็นหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายมาจากเทพสูงสุดที่อยู่เบื้องบน เมื่อกระทำงานเสร็จแล้วท่านก็จะจากไป
------------------------------------------------------------------------------------------

สันติสุข-1 บทที่ 2: พระศรีอารย์ ความเชื่อ กับข้อเท็จจริงตามหลักฐาน
สันติสุข-1 บทที่ 2 ใน เรื่องความเชื่อ ความมีศรัทธาทางด้านจิตใจของบุคคลนั้นๆ เป็นเรื่องลึกลับ ทำไมคนนี้ คนนั้นถึงเชื่อแบบนี้แบบนั้น ทั้งๆที่ เรื่องที่บุคคลนั้น บุคคลนี้ได้ฟังมา อ่านมาก็เป็นเรื่องเดียวกัน ดังนั้นการเขียนหนังสือที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ ความศรัทธาทางด้านจิตใจของบุคคล จึงเป็นเรื่องยากมากๆ อาจเขียนผิดเขียนถูก และท่านผู้อ่านควรเปิดใจอย่างเต็มที่ และคิดพิจารณาตามข้อเท็จจริง หรือตามหลักฐาน หรือความเป็นเหตุเป็นผลว่าควรเป็นอย่างไร จะเป็นไปได้ไหม มีประโยชน์อันใด มีโทษหรือไม่

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตรทรงตรัสสอนกาลามสูตรไว้ เป็นหลักในการปฏิบัติในเรื่องความเชื่อ ความมีศรัทธา ซึ่งทุกท่านสามารถค้นคว้าหาอ่านเพื่อทราบที่มาที่ไป และพิจารณาเนื้อความในเรื่องกาลามสูตรเอาเองได้ เมื่อสรุปเรื่องกาลามสูตรแล้วคือ ไม่ต้องเชื่อในเรื่องใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์หรือสมณะของเรา ยกเว้นแต่เรื่องนั้นๆเป็นกุศลธรรม ไม่เป็นโทษจึงนำมายึดถือปฏิบัติ

สำหรับคนทางตะวันตก เขาไม่ทราบกาลามสูตรของพระผู้มีพระภาค แต่เขายึดหลักในการหาข้อเท็จจริง มีการพิสูจน์หาหลักฐานมาประกอบ จึงทำให้เขารุดหน้าทางวิทยาศาสตร์ มีการค้นคว้าวิชาการใหม่ๆ มีการพัฒนาต่อยอดจากงานเดิม คือไม่ยึดติดอยู่ในสิ่งเดิม ไม่ยึดติดในครูบาอาจารย์ แต่พยายามหาความรู้เพิ่มเติม ซึ่งก็เหมือนเขามีกาลามสูตรของพระพุทธองค์เป็นหลักปฏิบัติ แต่เมื่อพิจารณาถึงความเชื่อ ความศรัทธา ทางด้านจิตใจของชาวตะวันตก พวกเขาไม่น้อยก็ยังมีความเชื่อในพระเจ้าทั้งๆ ที่พิสูจน์กันไม่ได้ อาจเป็นเพราะการสอนให้เชื่อ ให้มีศรัทธา ให้ยึดมั่นในพระเจ้าสืบต่อเนื่องกันมาแต่โบราณกาล แต่สำหรับคนตะวันตกสมัยใหม่ในปัจจุบัน เขาก็เลิกเชื่อในเรื่องพระเจ้าแล้วโดยเห็นว่าหาข้อเท็จจริงไม่ได้ แต่บางคนก็กล่าวว่า เขาต้องมีที่ยึดเหนี่ยวถึงแม้ว่าพระเจ้าจะมีจริงหรือไม่ก็ตาม นี่ก็เป็นความเชื่อ ความศรัทธาของเขา

เพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงในเรื่องความเชื่อ ความศรัทธา กับ ความเป็นจริง ขอนำเอาเรื่องใน พระ ไตรปิฎกเล่มที่ 7 วินัยปิฎกที่ 7 จุลวรรค ภาค 2 เกี่ยวกับพระนางมหาปชาบดีโคตรมี สรุปว่า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ก็เพราะสตรีออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว บัดนี้ พรหมจรรย์จักไม่ตั้งอยู่ได้นานสัทธรรม จักตั้งอยู่ได้เพียง ๕๐๐ ปีเท่านั้น ซึ่งถ้าเราได้ศึกษา เรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสนี้ จะเห็นว่ามีเหตุผลเป็นจริงได้ สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้เช่น

โปรดพิจารณา เอกสารเกี่ยวกับการชำระและการจารึก พระไตรปิฎก ในรัชกาลที่ ๑ (จากหนังสือพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา) พระไตรปิฎกธรรมทุกวันนี้ ยังถูกต้องบริบูรณ์อยู่หรือพิรุธผิดเพี้ยนประการใด จึ่งสมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะทั้งปวง พร้อมกันถวายพระพรว่า พระบาลีและ อรรถกถาฎีกาพระไตรปิฎกทุกวันนี้พิรุธมากมาช้านานแล้ว (อ้างอิง: พระไตรปิฎก และ พระไตรปิฎกฉบับประชาชน โดยคุณสุชีพ ปุญญานุภาพ)

ที่ยกมาเป็นตัวอย่างจะเห็นได้ว่า ที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสไว้ สัทธรรม จักตั้งอยู่ได้เพียง ๕๐๐ ปีเท่านั้นตามข้างบนนั้นเป็นจริง คือพระไตรปิฎกที่เป็นหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่ง มีพิรุธตามข้อมูลในรัชการที่ ๑ ข้างบน

และอีกเรื่องหนึ่งที่จะยกเป็นตัวอย่าง ที่เห็นได้ชัดเจนคือปีของ พ.ศ. ไทยนั้นสามารถเอาหลักฐานต่างๆ มาประกอบพิจารณาหาข้อเท็จจริง และจะเห็นว่า พ.ศ. ไทย เร็วไปกว่าความเป็นจริงประมาณ 50 ปีจริง ฉะนั้นนี่เป็นข้อพิจารณาในเรื่องความเชื่อที่ตามกันมา มีผลตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แล้วในกาลามสูตร แต่ใครจะเชื่ออย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของเขาทั้งหลาย

การเขียนเรื่องพระจักรพรรดิ (พระศรีอารย์) มาปรากฏในปัจจุบัน มิใช่จะให้เชื่อ แต่ขอให้พิจารณาตามหลักฐานหลายๆ หลักฐานที่คล้องจองกัน สนับสนุนกัน สำหรับที่เกี่ยวข้องในพระพุทธศาสนา ขอโปรดพิจารณาได้จาก สันติสุข-3: พระศรีอารย์ ว่าด้วยหลักฐานตามคำตรัสของพระพุทธเจ้าโคตมอยู่ในช่อง พลังจิต > วิทยา ศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ แล้วท่านจะเข้าใจ ว่า พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า พระจักรพรรดินั้นจะปรากฏในกึ่งพุทธกาล คือในปัจจุบันนี้ และจากข้อมูลที่สนับสนุนกัน อาจจะทำให้บางท่านมีศรัทธายิ่ง ในคำตรัสของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระพุทธองค์ทรงหยั่งรู้ทั้งในอดีต ในเวลาที่พระองค์ทรงมีพระชนชีพ และในอนาคตจริง

สำหรับการวิเคราะห์ว่า พระพุทธศาสนา ศาสนาอื่นๆ คำทำนายของผู้มีญาณทิพย์ท่านอื่นๆ เช่นนอสตราดามุส บ่งไว้แล้วนั้น ถ้าศึกษากันแล้ว จะเห็นว่ามีความเป็นจริงที่มีหลักฐาน มีเหตุมีผล มีที่มาที่ไป และสนับสนุนซึ่งกันและกัน ว่าพระจักรพรรดิจักปรากฏในปัจจุบัน และยังเป็นเครื่องชี้ เป็นเหตุผลเกี่ยวกับการผิดปกติของภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงไปของโลกในปัจจุบัน ที่นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังหาข้อตกลงกันอย่างแท้จริงไม่ได้ว่า เป็นเพราะเหตุใด

ฉะนั้นเรื่องการมาปรากฏของพระจักรพรรดิในปัจจุบัน ถึงแม้จะมีหลักฐานอ้างอิง ที่มีที่มาที่ไป มีเหตุมีผลเพียงพอ มีประโยชน์ ที่สามารถนำมากล่าวได้ แต่ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่แต่ละบุคคล ว่าจะมีศรัทธาในผู้มีพระภาค มีความสนใจมากน้อย หรือไม่ เพียงไร

จะขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบความเชื่อ ความศรัทธา กับการตรัสของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าด้วยเรื่องปาฏิหาริย์ และเพื่อให้เข้าใจเรื่องนี้ง่ายขึ้น จะขอยกคำสอนของ โดย: พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)มาลงไว้ สำหรับผู้ที่ต้องการค้นคว้าในพระไตรปิฎกย่อมทำได้

พระพุทธเจ้าทรงตรัส ปาฏิหาริย์ มี ๓ อย่าง คือ

๑. อิทธิปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือการแสดงฤทธิ์ต่างๆ
๒. อาเทศนาปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือการทายใจคนอื่นได้
๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือคำ สอนที่เป็นจริง สอนให้เห็นจริง และนำไปปฏิบัติได้ผลสมจริง

ในบรรดา ปาฏิหาริย์ ๓ อย่างนั้น พระพุทธเจ้าโคตมทรงรังเกียจ ไม่โปรด ไม่ โปร่งพระทัยต่อ อิทธิปาฏิหาริย์ในข้อ ๑ และ อาเทศนาปาฏิหาริย์ในข้อ ๒ ข้างบน เพราะทรงเห็นโทษว่า คนที่เชื่อก็เห็นจริงตามไป ส่วนคนที่ไม่เชื่อได้ฟังแล้ว ก็หาช่องขัดแย้งคัดค้านเอาได้

และพระพุทธองค์ทรงชี้แจงความหมาย และคุณค่าของอนุสาสนีปาฏิหาริย์ในข้อ ๓ ให้เห็นว่า เอามาใช้ปฏิบัติเป็นประโยชน์ ประจักษ์ได้ภายในตนเอง จนบรรลุถึงอาสวักขัย อันเป็นจุดหมายของพระพุทธศาสนา

ในเรื่องความเชื่อ ความมีศรัทธาแล้ว ปาิฏิหารย์ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่ผู้คนอีกมากยังยึดติดในอิทธิปาฏิหาริย์และอาเทศนาปาฏิหาริย์ตามข้างบน ถึงแม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโตจมทรงตรัสแนะไว้แล้ว

ดังนั้น การนำเรื่องพระจักรพรรดิจักมาช่วยนำประชาชนไทย สร้างสนติสุขที่แท้จริงขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนไทย มาลงให้ท่านได้อ่าน ขอได้โปรดพิจารณาถึงเหตุผล และขอได้โปรดอย่าเชื่อ แต่ท่านเองก็ควรศึกษา คิดว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ เป็นกุศลกรรมหรือไม่ เพียงไร เป็นโทษหรือไม่ โดยขอให้ยึดหลักกาลามสูตรเป็นเครื่องพิจารณา ถ้าเป็นสิ่งดี ไม่เป็นโทษ ก็โปรดช่วยเผยแพร่เรื่องนี้เพื่อตอบแทนคุณของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และบรรพบุรุษไทย อันนำมาสู่การสร้างกุศลเกิดผลบุญแก่ตัวท่านเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น